
Yoogane ไก่ผัดซอสคาลบี้อันดับ 1 ในเกาหลี
“นายรอบรู้” ขอพามาเปิดประสบกาณ์ความอร่อยสนุกหน้าเตากันที่ร้านยูกาเน ร้านไก่ผัดซอสคาลบี้ต้นตำรับอาหารสัญชาติเกาหลีขนานแท้ ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้
“ถนนชล-จันท์” เรียกเต็มยศว่า “ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต” เป็นถนนเลียบชายฝั่งทะเลตะวันออกที่สวยและยาวที่สุดในประเทศไทย เรียกได้ว่า มีจุดท่องเที่ยวให้แวะชม มีร้านอร่อยให้แวะชิมกันตลอดเส้นทาง
(สามแยกอ่าวไข่ ริมทางหลวง 3161 อ. แกลง จ. ระยอง เปิด 08.00-18.00 น. โทร. 08-9163-5174, 08-5095-0621)
เป็นร้านอร่อยอยู่ก่อนเข้าเขตเมืองจันทน์ที่อยากแนะนำให้แวะกินห้ามเลยผ่านเด็ดขาด เป็นร้านอาหารพื้นบ้านชาวระยอง ที่เปิดขายมา 30 กว่าปีแล้ว และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดให้ลูกค้าได้เดินชมสวนสละพันธุ์สุมาลีและสวนผสมอันร่มรื่น พร้อมชอปปิ้งผลไม้ตามฤดูกาลติดไม้ติดมือกลับไปด้วย ทีเด็ดไม่ได้หมดแค่นี้ เพราะเมนูอาหารของที่นี่ล้วนแต่เป็นสูตรชาวบ้านดั้งเดิมที่หยิบเอาพืชผักสมุนไพรรอบๆ บ้านมาปรุงเป็นเมนูเด็ด
เมนูแนะนำคือแกงเนื้อสลัดไดก็ตัดยอดอ่อนมาใช้โดยนำหนามออกล้างยางให้หมด แล้วใส่ลงไปในแกงเนื้อที่กำลังเดือดพล่านเข้ากับเครื่องแกงที่ทำเองไม่เหมือนใคร ที่สำคัญเขาใส่ขิงแห้งเป็นขิงอีกชนิดที่มีมากในพื้นที่ ช่วยดับกลิ่นเนื้อและเพิ่มความเผ็ดร้อนได้เป็นอย่างดี กินแล้วโล่งจมูกโล่งคอหายหวัดแถมยังขับลมได้ดี ตามด้วยแกงหมูกะลามะพร้าว ทีเด็ดอยู่ตรงที่เดินเข้าสวนไปสอยมะพร้าวอ่อนมาผ่าและตักกะลาอ่อนมาแกงทั้งหอมทั้งกรุบกรอบอร่อยเข้ากัน ผักน้ำพริกกะปิเป็นอีกเมนูที่ห้ามพลาด ด้วยใช้เนื้อระกำมาโขลกรวมกับกะปิชั้นดี ปรุงรสชาติเด็ดเผ็ดจัดตำรับคนระยอง กินเคียงกับผักสดผักนึ่งนานาชนิด
อีกเมนูอันเป็นเอกลักษณ์คือห่อหมกรวมมิตรทะเลที่ผัดเครื่องแกงกับปลา หมึก กุ้งแบบเละๆ เสิร์ฟมาในจานให้กินได้เต็มปากเต็มคำ และอีกสารพัดเมนูความอร่อยรับรองถึงใจในราคาแบบชาวบ้าน ตบท้ายด้วยสละลอยแก้วหวานฉ่ำชื่นใจ มาที่เดียวครบสูตรทั้งชิมชมชอปเลยจ้า
(หาดคุ้งวิมาน อ. ท่าใหม่ จ. จันทบุรี เปิด 08.00-20.00 น. โทร. 08-68423226)
หาดคุ้งวิมาน มีร้านอาหารตั้งเรียงรายริมชายทะเลหลายร้าน ร้านที่คนเมืองจันท์แนะนำว่าต้องลองคือ ร้านเจ๊สาวที่ขายมากว่า 20 ปีแล้ว ทางร้านสร้างแคร่ไม้ไผ่หลังคามุงจากให้นั่งรับลมชมวิวริมหาดคุ้งวิมาน ร้านนี้เขาเด็ดเรื่องน้ำจิ้มซีฟู้ด เพราะโขลกน้ำจิ้มกันสดใหม่ถ้วยต่อถ้วยไม่มีค้างคืน ทั้งพริกขี้หนูและกระเทียมเลือกเฉพาะที่สดๆ โขลกหยาบๆ บีบมะนาวแบบไม่มีหวง เหยาะน้ำปลานิดเติมน้ำตาลหน่อยรสจัดมัดใจคอซีฟู้ดแน่นอน
จะสั่งกุ้ง หอย ปู ปลามาปิ้งย่างหรือนึ่งอบก็แซบเวอร์ทุกเมนู ด้วยอาหารทะเลสดใหม่ส่งตรงจากเรือประมงชาวบ้านในละแวกทุกวัน โดยเฉพาะเดือน พ.ย. จะมีปลาน้ำลึกมาให้ลิ้มลอง เช่น ปลาย่ำสวาท และปลากระพงแดง อีกเมนูไอไลท์ประจำร้านคือหมึกไข่นึ่งมะนาวที่ใส่นมสดเพิ่มความหอมมันผสานรสจัดจี๊ดปี๊ดมะนาวให้ซดกันคล่องคอ หากอิ่มกันจนพุงกางแล้วไม่อยากขยับกายไปไหนไกล ทางร้านยังมีโฮมสเตย์บรรยากาศบ้านชาวเลชื่อทะเลบุรีให้นอนรับลมชมวิถีชาวเลได้ตลอดทั้งวัน
(ซ. เทศบาล 1/2 ตรงข้ามโรงเรียนปากน้ำแหลมสิงห์ อ. แหลมสิงห์ จ. จันทบุรี เปิด 10.00-16.00 น. โทร. 08-43477296)
รับรองสาวกส้มตำชิมแล้วกรี๊ดเพราะรสชาติจี๊ดจ๊าดจัดจ้านกระแทกใจ ประหนึ่งเพชรเม็ดงามในแหลมสิงห์ ด้วยตั้งหลบมุมอยู่ในซอย หน้าร้านก็ไม่มีป้ายชื่อ หน้าตาก็ดีคุณภาพก็เยี่ยม วัตถุดิบสดสะอาดไร้กังวล แถมราคาก็ถูกแสนถูก เพราะเจ๊อี๊ดเจ้าของร้านเขาเอากำไรน้อย ด้วยไม่เสียค่าที่และไม่มีลูกจ้าง เจ๊จึงใส่ทุกอย่างไม่อั้นจนได้ส้มตำแสนอร่อย
เมนูที่นี่เขาเน้นส้มตำเป็นหลัก จะตำกั้ง ตำปูม้า ตำผลไม้รวม ตำมะม่วง ตำข้าวโพด ตำหมูยอ ตำคอหมูย่าง ตำปูตำปลาร้า ตำไทย ตำแตง ตำถั่ว ฯลฯ ก็แซบเวอร์ด้วยมะละกอสดๆ ที่ตำไปสับไป ไม่สับทิ้งไว้เพราะกลัวจะมีกลิ่นเหม็น ตำใส่พริกแห้งที่คั่วเองทุกวันจะได้รสเผ็ดร้อนและกลิ่นหอมฉุนของพริก บีบมะนาวสดๆ พร้อมฝานทั้งเนื้อและเปลือกใส่ลงไปเพิ่มรสเปรี้ยวแหลมและหอมเปลือกมะนาว สั่งลาบหมู ลาบไก่มากินเพิ่มก็ไม่ผิดหวัง เพราะทางร้านเขาใส่มะปรี๊ดหรือส้มจี๊ดแทนมะนาว ได้รสเปรี้ยวกลมกล่อมเข้ากับเครื่องลาบอย่าบอกใครเชียว
ไก่ย่างของร้านก็เป็นเมนูห้ามพลาดเป็นไก่ย่างซอสแดงที่หมักกระเทียมพริกไทยปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและเกลือ ใส่ผงกระหรี่นิดๆให้พอมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ย่างเตาถ่านอร่อยจนไม่ต้องง้อน้ำจิ้มแจ่วเลยจ้า
เพิ่มความหอมและรสชาติที่ไม่เหมือนใคร ต่อด้วยพานาคอตต้าชาไทย (Thai Tea Panna Cotta) ที่ใครได้ชิมคำแรกก็ต้องหลงรักเข้าเต็มเปา ด้วยเนื้อเนียนนุ่มหอมละมุนถึงชาไทย และอีกหลากหลายความอร่อยที่รอให้คุณได้ไปสัมผัสพร้อมจิบเครื่องดื่มเบาๆ เคล้าบรรยากาศสบาย ๆ พร้อมวงดนตรีขับกล่อมในทุกค่ำคืน
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
“นายรอบรู้” ขอพามาเปิดประสบกาณ์ความอร่อยสนุกหน้าเตากันที่ร้านยูกาเน ร้านไก่ผัดซอสคาลบี้ต้นตำรับอาหารสัญชาติเกาหลีขนานแท้ ที่มีต้นกำเนิดจากเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้
สกลนคร : ร้านนี้เปิดมากว่า 40 ปีแล้ว “พี่ตั๋น” ทายาทผู้สืบทอดเจตนารมร์ของคุณแม่ทองดี ได้พัฒนาและเพิ่มเมนูอาหารฝรั่งให้เป็นเมนูเด็ดประจำร้าน อย่างเช่นสเต็กโพนยางคำ ที่ใช้เนื้อโคขุนโพนยางคำเกรดเอส่งตรงจากสหกรณ์ฯ โพนยางคำ คัดสรรเนื้อส่วนที่ดีที่สุด คือเนื้อสันในและเนื้อสันนอกที่มีมันแทรกในเนื้อช่วยให้เนื้อนุ่ม มาทำสเต็ก ทั้งการปรุงก็พิถีพิถันในทุกขั้นตอน
ใครที่มองหาคาเฟ่สวยๆ ไว้นั่งชิลๆ ย่านแบริ่ง นายรอบรู้บอกเลยว่าคุณต้องห้ามพลาด เพราะนกจากบรรยากาศจะดีงามแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารสุขภาพมากมายให้เลือก ดีต่อตา ดีต่อใจขนาดนี้ ใครจะพลาดได้…ว่าไหม
ร้านรถเข็นริมทางที่อยากบอกต่อ แรกเริ่มเดิมทีรุ่นพ่อมีอาชีพขายรังนกมานานกว่า 60 ปี
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ย้อนเวลาสู่อดีต : Street Art ย่านเมืองเก่าสงขลา ภาพชีวิตบางภาพ เราอาจไม่เห็นในปัจจุบันแล้ว แต่มันยังมีชีวิตอยู่ในความทรงจำของผู้คน และเหลือร่องรอยบางอย่างให้ค้นหา โดยเฉพาะในย่านเก่าของแต่ละเมืองที่มักมีวิถีชีวิตหลากหลาย เรื่องราวมากมาย มีเสน่ห์ชวนหลงใหลอยู่เสมอ ดังเช่นย่านเก่าเมืองสงขลา ในจังหวัดสงขลา ที่เราอยากแนะนำในวันนี้ ย่านเก่าเมืองสงขลาตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง เมื่ออดีตราว 200 ปีก่อน ตัวเมืองไม่ได้อยู่บริเวณในปัจจุบันนี้ แต่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ เรียกว่า เมืองสงขลาฝั่งแหลมสน จนกระทั่ง พ.ศ. 2385 จึงขยายมาทางฝั่งตะวันออกบริเวณตำบลบ่อยางในปัจจุบัน เรียกกันว่า “เมืองสงขลาฝั่งบ่อยาง” แรกเริ่มมีถนน
อีกไม่นานก็ปลายปีแล้ว มาวางแผนเที่ยวกัน! “นายรอบรู้” ขอชวนตะลุยเที่ยวเพชรบูรณ์ เมืองรองที่ต้องห้ามพลาด กับ 5 เส้นทางระดับไฮไลต์ ทั้งเขาค้อ-ภูทับเบิก-ทุ่งแสลงหลวง-ตัวเมือง-ภูลมโล ที่มีธรรมชาติดีงาม ทะเลหมอกตามหุบเขา และวัฒนธรรมน่าค้นหา
อากาศสดใส ปลอดโปร่งโล่งใจกลางทุ่งดอกไม้ จิบเครื่องดื่มเย็นสบาย ผ่อนคลายที่ “มีเขามีเรา คาเฟ่”
ด้วยความหนักแน่น มั่นคง ความเรียบง่าย ผ่อนคลาย หรือแม้แต่ความยุ่งเหยิงของลายเส้นที่เปรียบได้กับอารมณ์-ความรู้สึกของความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งความปรารถนา ความอ่อนโยน ความโรแมนติก และความสวยงามของผู้หญิงออกมาในอริยาบถต่างๆ แสดงผ่านลายเส้นของภาพพิมพ์
© 2018 All rights Reserved.