ททท. เปิดตัวโครงการ STAR ยกระดับผู้ประกอบการ “มาร่วมสร้างท่องเที่ยวไทยให้ยั่งยืน”
ททท. แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating
“นายรอบรู้ นักเดินทาง” บุกตะลุยสาธารณรัฐประชาชนจีน สำรวจแหล่งท่องเที่ยวในมณฑลกุ้ยโจว ร่วมกับ #คาราวานรถยนต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมไทย-จีน ณ มณฑลยูนนานและมณฑลกุ้ยโจว เปิดเส้นทางใหม่ คุนหมิง-กุ้ยหยาง-เจิ้นหยวน-ซีเจียง-ขายหลี่ ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2562
มณฑลกุ้ยโจวอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งขุนเขา ไม่มีทางออกสู่ทะเล อีกทั้งมณฑลกุ้ยโจวยังเป็นหนึ่งในมณฑลที่ยากจนที่สุดในจีน มีค่า GDP ต่ำมาก แต่ด้วยนโยบายแก้จนของทางการจีน ได้พัฒนากุ้ยโจวให้เริ่มมีเศรษฐกิจขยายตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จาก “การท่องเที่ยว”
การเดินทางเริ่มต้นจากสนามบินสุวรรณภูมิ มุ่งสู่นครคุณหมิง เมืองเอกมณฑลยูนนาน ซึ่งติดกับมณฑลกุ้ยโจว “นายรอบรู้” นั่งรถยนต์ร่วมขบวนคาราวานสานสัมพันธ์วัฒนธรรมไทย-จีน ตลอด 7 วันของการเดินทาง ได้ชมบรรยากาศบ้านเมือง ทิวทัศน์ขุนเขาตลอดสองข้างทาง อีกทั้งได้แวะพักค้างคืนสัมผัสความงดงามและอากาศที่หนาวเย็นของเมืองต่างๆ ไม่ซ้ำกัน ได้ลิ้มรสอาหารพื้นเมืองที่หลากหลาย และสัมผัสวิถีวัฒนธรรมการต้อนรับที่น่าประทับใจ
อีกทั้งได้สำรวจแหล่งท่องเที่ยวสุดอลังการระดับ AAAAA ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในจีน กับเส้นทางใหม่ “กุ้ยหยาง-เจิ้นหยวน-ซีเจียง-ขายหลี่” ที่คุณจะต้องทึ่งในความสวยงามและตะลึงในความยิ่งใหญ่อลังการ
(เมืองอันซุ่น มณฑลกุ้ยโจว)
ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและใหญ่สุดในทวีปเอเชีย อีกทั้งยังเป็นน้ำตกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย เสียงของน้ำตกได้ยินไปไกลถึง 4 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามตระการตา โดยชื่อ หวงกว่อ หมายถึง “ต้นผลไม้สีเหลือง” มีที่มาจากตำนานพื้นบ้านที่เล่าถึงผลไม้ที่มีสีเหลืองที่ห้อยมาจากต้น มีชายชราผู้หนึ่งพยายามที่จะเก็บกินมัน แม้มีผู้ทักท้วง แต่ก็ไม่สำเร็จ และผลไม้นั้นก็ได้ตกลงไปในน้ำทำให้ได้ชื่อว่า หวงกว่อซู่
มีถ้ำหลังม่านน้ำตก ชื่อ ชุยเหลียงตง เป็นถ้ำที่อยู่ด้านหลังของน้ำตกมีความยาวประมาณ 134 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านถ้ำหลังม่านน้ำตกสัมผัสกับละอองน้ำที่เย็นฉ่ำ และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่องไซอิ๋ว โดยเป็นฉากที่อยู่อาศัยของบริวารวานรของหงอคง หรือเห้งเจีย นั่นเอง ในช่วงฤดูแล้ง ปริมาณน้ำของน้ำตกจะลดน้อยลงตามธรรมชาติ ทำให้เห็นหินรูปร่างประหลาดต่าง ๆ น้อยใหญ่ที่เรียงรายอยู่รอบ ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งความสวยงามของที่นี่ แต่เสียงของน้ำตกก็ยังดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ขณะที่ช่วงฤดูฝนราวเดือนสิงหาคมถึงกันยายน เสียงของน้ำตกจะได้ยินดังไปไกลถึงอีกหมู่บ้านหนึ่ง อีกความงามของที่นี่ คือ รุ้งที่เกิดจากละอองน้ำที่สะท้อนกับแสงแดดที่เหนือทะเลสาบเบื้องล่างของน้ำตก จุดนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยว มีการสร้างสะพานสำหรับยืนชมหรือถ่ายภาพโดยเฉพาะ
(เมืองไขหลี่ มณฑลกุ้ยโจว)
ชมเมืองโบราณเซี่ยซือ ชุมชมเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 600 ปี มีประวัติยาวนานของการตั้งหมู่บ้านมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง โดยมีหลักฐานสำคัญคือ “ท่าเรือเล็ก Longtan” ภายในเมือง เป็นท่าเรือที่สร้างสมัยปลายราชวงศ์หมิงและเปิดใช้งานสมัยต้นราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีความสำคัญมากของเมืองเซี่ยซือ เพราะเป็นท่าเรือสำหรับเทียบเรือของคนที่สอบติดจอหงวน และนำข่าวดีกลับมายังที่นี่
ด้วยเคยเป็นท่าเรือเก่าในอดีต จึงสร้างบ้านเรือนติดริมแม่น้ำชิงสุ่ย ถนนปูลาดด้วยหินลัดเลาะไปตามแม่น้ำ นอกจากจะเดินเลียบริมแม่น้ำ ยังมีถนนกลางเมืองที่สองฝั่งถนนถูกขนาบด้วยบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้ทั้งหมด เป็นอาคารไม้ 4-5 ชั้น ประตูหน้าต่างเป็นไม้แกะสลักด้วยลวดลายจีนงดงามตระการตาจนได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองไข่มุกบนแม่น้ำชิงสุ่ย มีชนกลุ่มน้อยต้งและม้งอาศัยอยู่ ทำการค้า ค้าขายสินค้าพื้นเมือง ขายเครื่องเงินที่เป็นเครื่องประดับของชนเผ่า ขายของกินพื้นถิ่น และของที่ระลึกให้นักท่องเที่ยว
เมืองโบราณเซี่ยซือยังเป็นต้นกำเนิดกระเทียมแดงในประเทศจีน และเป็นบ้านเกิดและแหล่งเพาะพันธุ์ของสุนัขที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นสุนัขพันธุ์เซี่ยซือ ซึ่งเป็นสุนัขที่ดีที่สุดในเอเชีย
(เมืองเฉียนตงหนาน มณฑลกุ้ยโจว)
สุดยิ่งใหญ่อลังการกับเมืองโบราณที่ถูกขนานนามว่าเป็น “เวนิสแห่งตะวันออก” ด้วยความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมโบราณในสมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งเป็นเมืองน้ำที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและแม่น้ำ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาภูมิประเทศที่งดงาม สถานที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมชนเผ่า
อาคารบ้านเรือนสร้างอยู่ริมแม่น้ำอู่หยาง มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมระดับประเทศของจีน โดยเป็นศูนย์กลางการค้าทั้งเส้นทางบกและทางน้ำตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเส้นทางสายไหมในอดีต เมืองโบราณเจิ้นหย่วน เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ทั้งกลางวันและกลางคืน แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ ครอบคลุมพื้นที่เพียงไม่กี่ตารางกิโลเมตร แต่ทุกตารางเมตรของที่นี่งดงามตราตรึง
ตั้งแต่อาคารบ้านเรือนที่สร้างด้วยหินและอิฐ สูงประมาณ 4-5 ชั้น แต่จะสร้างไม่เกิน 7 ชั้น ประตูหน้าต่าง และระเบียง ยังสร้างด้วยไม้แกะสลักลวดลายจีน บ้านแต่ละหลังประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดง เรียงรายตลอดสองฝั่งถนนที่ปูด้วยหิน และตลอดสองฝั่งแม่น้ำ
เมื่อเดินลึกเข้าไปในหมู่บ้านมีสะพานหินโบราณเชื่อมต่อไปยัง อุทยานซิงหลงต้ง หรือถ้ำมังกรเขียว ที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง ถือเป็นสถานที่ที่มีฮวงจุ้ยดีเลิศ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางด้านศาสนา ภายในถ้ำประกอบด้วยเรื่องราวของพุทธศาสนา ลัทธิเต๋า ลัทธิขงจื๊อ
โดยตั้งรวมกันไว้แต่ละจุดอย่างลงตัว เช่น ศาลเจ้าแม่กวนอิมพันมือ เตียงนอนหินจางซานฟง ผู้ริเริ่มไทเก๊ก ศาลเจ้าเสนาบดีเหวินเทียนเสียงแห่งราชวงศ์ซ่งใต้ที่สร้างจากสมาคมมณฑลเจียงซี(กังใส) ศาลเจ้าอาจารย์ขงจื๊อที่แกะสลักด้วยไม้เก่าแก่เส้นสีทอง เป็นต้น
บนถ้ำมังกรเขียวยังมีจุดชมวิว เมืองโบราณเจิ้นหย่วนแบบพาโนรามา ที่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศความงดงามยามพระอาทิตย์ตก และในยามค่ำคืนมีกิจกรรมล่องเรือสัมผัสความหนาวและชมแสงสียามค่ำคืนของเมืองโบราณเจิ้นหย่วน ที่บ้านเรือนแต่ละหลังได้ประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดง สวยงามตระการตา
(เมืองเหลยซาน มณฑลกุ้ยโจว)
สัมผัสวิถีวัฒนธรรมของหมู่บ้านม้งพันครอบครัวแห่งซีเจียง เป็นหมู่บ้านชนเผ่าเหมียวจู๋ (ม้ง) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “หมู่บ้านแม้วพันครอบครัว” ที่นี่มีประวัติอันยาวนานกว่า 5,000 ปี ถือเป็นหมู่บ้านม้งที่เก่าแก่มาก ตั้งอยู่ในหุบเขาเขตอำเภอเหลยซาน เขตปกครองตนเองชนชาติม้งและต้งเมืองเฉียนตงหนาน มณฑลกุ้ยโจว มีผู้อยู่อาศัยประมาณหมื่นกว่าคน และชนเผ่าเหมียวจู๋ (ม้ง) ถือเป็น 1 ใน 56 ชนเผ่าทั่วเมืองจีน ที่มีการรวมกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น มีขนาดใหญ่และประชากรมากที่สุดในบรรดาชนเผ่าพื้นเมืองต่าง ๆ ในประเทศจีน และสามารถรักษารากฐานวัฒนธรรมของตนได้อย่างดีที่สุด
ชนเผ่าเหมียวจู๋(ม้ง) จะใส่ชุดพื้นเมืองมาร่ายรำ ร้องเพลงต้อนรับแขกผู้มาเยือน พร้อมรินเหล้าขาวหรือเหล้าท้องถิ่นใส่จอกที่ทำจากเขาควายหรือจอกเครื่องปั้นดินเผาให้ดื่มถึง 12 ด่าน ซึ่งอาจจะทำให้คุณเมาเหมือนไอ้หนุ่มมัดเมาแบบไม่รู้ตัว
จากนั้นเดินสำรวจบ้านเรือน ลัดเลาะเข้าตรอกซอยที่เต็มไปด้วยบ้านไม้โบราณที่สร้างสูงเพียง 2-3 ชั้น ด้วยใช้วิธีการเข้าลิ่มไม้ ไม่ตอกตะปูแม้แต่ตัวเดียว หลังคากระเบื้องทรงจั่วสูง ลักษณะแบบเก๋งจีน มีทั้งเปิดเป็นร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ของที่ระลึกอย่างร้านเครื่องเงิน เครื่องประดับที่ทำจากเงินแท้ 99.9%
ไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวหมู่บ้านม้งพันครอบครัวแห่งซีเจียง คือ การชมการแสดงของชนเผ่าม้งที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องประเพณีวัฒนธรรม จากนั้นนั่งรถพ่วงขึ้นไปที่ จุดชมวิวบนยอดเขา เพื่อชมวิวยามค่ำคืนของบ้านโบราณที่ปลูกลดหลั่นไปตามภูเขาสูงนับพันหลัง ท่ามกลางนาขั้นบันได และขุนเขาที่โอบล้อม เมื่อยามที่ทุกบ้านเปิดไฟอย่างพร้อมเพรียงจะทำให้เห็นวิวที่งดงามเหมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวส่องแสงระยิบระยับ
(เมืองเหลยซาน มณฑลกุ้ยโจว)
สัมผัสวิถีชีวิตชนกลุ่มน้อยชาวม้ง ที่หมู่บ้านม้งหนานฮวา หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักหรือปรากฏข้อมูลท่องเที่ยวในโลกโซเชียล ด้วยชาวม้งที่นี่ยังคงวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมท่ามกลางธรรมชาติที่แสนเรียบง่าย บ้านเรือนก็เป็นบ้านไม้สองชั้นยกพื้นสูง แบบบ้าน ๆ ไม่ได้วิจิตรงดงามอะไร ประตูหน้าต่างก็เป็นไม้เรียบ ๆ ไม่ได้แกะสลักลวดลาย
ชาวม้งที่นี่ทำการเกษตร ปลูกข้าว ปลูกผักไว้กินเอง แต่ละบ้านยังใช้ครกไม้ตำข้าวหรือครกกระเดื่องเหมือนที่เมืองไทย มีการถนอมอาหารด้วยการนำเนื้อหมูมาหมักเกลือแล้วแขวนไว้ในบ้าน ด้วยอากาศที่หนาวเย็นตลอดปีช่วยให้เนื้อหมูไม่เน่าเสีย สามารถเก็บไว้กินได้นาน ๆ อีกทั้งบางบ้านยังต้มเหล้าไว้กินเองและเอาไว้คอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน
หญิงสาวและหญิงชรายังคงทำงานฝีมืออย่างการทอผ้า ตัดเย็บชุดพื้นเมืองไว้ใช้เอง ส่วนผู้ชายก็ทำเครื่องดนตรีอย่าง แคนจีน ที่ในภาษาจีนเรียกว่า “หลูเซิน” เป็นเครื่องดนตรีของเผ่าเหมียวจู๋ในจีน ที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งในสมัยโบราณทำด้วยหวายและถูกพัฒนามาเป็นไม้ไผ่ มีรูปร่างหลายแบบทั้งยาวและสั้น ซึ่งจะถูกใช้บรรเลงเพลงในเทศกาลต่าง ๆ ของเผ่าเหมียวจู๋
(เมืองปี้เจี๋ย มณฑลกุ้ยโจว)
“จือจิงต้ง” หรือถ้ำจือจิน เป็นถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่ในเขตภูเขาสูง เมืองปี้เจี๋ย มณฑลกุ้ยโจว มาเป็นเวลานาน จนกระทั่งทีมสำรวจของการท่องเที่ยวเมืองปี้เจี๋ยไปค้นพบในปี ค.ศ. 1980 หลังจากค้นพบ การท่องเที่ยวท้องถิ่นได้เข้ามาจัดการเพื่อเตรียมความพร้อมเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเป็นครั้งแรกในปี 1985
มีคนกล่าวว่า ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำที่ยังไม่ตาย ยังมีการเกิดของหินงอกหินย้อยใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา โดยจุดเด่นของที่นี่คือ หินงอกหินย้อย และเสาหิน-ปะติมากรรมทางธรรมชาติที่ดูวิจิตรงดงาม ชวนให้เปิดโลกแห่งจินตนาการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ถึงร้อยกว่าจุด เช่น หอรับแขก, วังพระจันทร์, ตําหนักอายุวัฒนะ, ป่าเจดีย์, ยอดเขาแสนลูก เป็นต้น
สำหรับขนาดของถ้ำแห่งนี้ มีพื้นที่ 7 ตารางกิโลเมตร (บริเวณโถงขนาดใหญ่ที่สุดในถ้ำ กินพื้นที่ 70,000 ตารางเมตร) ความยาวของถ้ำประมาณ 12 กิโลเมตร แต่ส่วนที่เปิดให้เดินเข้าชมตอนนี้แค่ประมาณ 3กิโลเมตรเท่านั้น แต่ก็เพียงพอต่อการเข้าชมความงามที่ถูกเนรมิตโดยธรรมชาติ การันตีจากนิตยสาร Chinese National Geography จัดอันดับให้เป็น “ถ้ำที่สวยที่สุดในจีน” ในปี 2005
ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ AAAA และยังได้รับขึ้นทะเบียนเป็น “อุทยานธรณีโลก UNESCO Global Geopark” เมื่อปี 2015 อีกด้วย
ขอขอบคุณ : คาราวานรถยนต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมไทย-จีน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ข้อมูลบางส่วนจาก เพจอ้ายจง
#คาราวานรถยนต์สานสัมพันธ์วัฒนธรรมไทย-จีน
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#นายรอบรู้
#มณฑลกุ้ยโจว
#เที่ยวจีน
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ททท. แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating
ททท. เปิดตัวกิจกรรมสุดว้าว ภายใต้ “โครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ตรงใจนักท่องเที่ยว
เริ่มแล้ว! ททท. จัดเต็มแสง เสียง กับงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร” ดึงเทคโนโลยีล้ำสมัย
สะท้อนศิลปะและความเชื่อคนไทย ใน 3 พื้นที่แลนด์มาร์ก กรุงเทพมหานคร
ททท. ร่วมกับหอการค้าไทย เดินหน้าเปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางน้ำ กรุงเทพมหานครถึงพระนครศรีอยุธยา หวังกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ สู่การท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน
© 2018 All rights Reserved.