
ขนมด๊อต : ขนมปิ้งเขมรโบราณ
ขนมด๊อตเป็นขนมปิ้งโบราณของจังหวัดบุรีรัมย์ รสชาติหวานมันและกลมกล่อมชนิดที่ผู้ซึ่งไม่ชื่นชอบขนมหวานยังต้องฟิน แต่ในปัจจุบันกลับหาซื้อทานได้ยากยิ่ง เนื่องจากเป็นขนมที่ต้องใช้ความอดทนในการผลิตเป็นอย่างสูง
ชุมชนเก่าร้อยเรื่องราว ทั้งประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม สังคม ภูมิปัญญา และวิถีชีวิตสืบทอดกันรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนที่ใช้เรียกขานกันสืบมาว่า “บ้านจุ้ม เมืองเย็น”
คำว่า ‘บ้านจุ้ม’ หมายถึง บ้านที่อุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำ 3 สายไหลผ่าน คือ แม่น้ำแม่ออน แม่น้ำผาแหน และแม่น้ำลาน และอ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริฯ จำนวน 2 แห่ง ส่วน ‘เมืองเย็น’ หมายถึง สถานที่ที่สงบร่มเย็นเป็นสุขด้วยวัฒนธรรมประเพณี ใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนาบารมีหลวงปู่หล้า ผู้คนในชุมชนจึงมีน้ำใจเป็นมิตรผูกพันฉันพี่น้อง
“ออนใต้” มีบรรพบุรุษมาจาก “พันนาภูเลา” เมืองเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีหลักฐานปรากฎเป็นศิลาจาลึกและเครื่องถ้วยสังคโลกแบบสันกำแพง ที่วัดป่าตึง ศาสนสถานที่มีอายุกว่าร้อยปีมีชื่อเสียงเรื่อง “หลวงปู่หล้าตาทิพย์” พระสายวัดป่าที่ปัจจุบันเหลือเพียงสรีระสังขารให้ชาวบ้านได้กราบไหว้ขอพร ปัจจุบันชุมชนออนใต้ เป็นตำบลหนึ่งของอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งหมด 11 หมู่บ้านกับเส้นทางท่องเที่ยวที่หลากหลาย ใครที่ได้มาเยือนชุมชนออนใต้ จะได้ร่วมเรียนรู้พร้อมสัมผัสความสุข สนุกครบทุกรสชาติ ในแบบวิถี “บ้านจุ้ม เมืองเย็น”
เช็คอินจุดแรกกันที่ออนใต้ฟาร์ม กับแลนด์มาร์คปิ่นโตเถายักษ์ที่บ่งบอกว่าที่นี่เปรียบเสมือนครัวของชุมชน โดยพี่โยหรือภิญโญ วิสัย เกษตรกรหนุ่มผู้มีหัวใจรักวิถีอินทรีย์ เปิดฟาร์มต้อนรับพร้อมบอกเล่าเรื่องราวการทำเกษตรอินทรีย์ โดยน้อมนำศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ มาปรับให้เข้ากับพื้นที่ของตน แบ่งพื้นที่เพื่อปลูกข้าวอินทรีย์ ทำสวนผักสาธิตโดยปลูกพืชผักผสมผสาน เลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี อีกทั้งยังมีบ่อเลี้ยงปลา เรียกได้ว่าเหมือนมีซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นของตัวเอง จะปรุงเมนูไหนก็หิ้วตะกร้าเข้าสวนเก็บวัตถุดิบสดๆ จากสวนได้เลย นอกจากที่นี่จะบริการอาหารพื้นเมืองเหนือแล้ว ยังมีคาเฟ่เล็กๆ เสิร์ฟชากาแฟให้นักท่องเที่ยวอีกด้วยนะ
จากออนใต้ฟาร์ม เรานั่งรถสองแถวไม้โบราณโดยมีพ่อเทียบ ปัญญาจันทร์ ปราญช์ชาวบ้านคอยเป็นไกด์พามาที่ฟ้าใหม่แฮนด์ลูม อีกหนึ่งจุดเช็คอินห้ามพลาด ที่คุณจะได้เรียนรู้กระบวนการปั่น กรอ ทอ ย้อม และจะได้ย้อมผ้าจากสีธรรมชาติด้วยตัวคุณเอง ที่นี่จะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ อย่างไม้ฝาง จะให้สีแดงหรือชมพู บวกภูมิปัญญาในการผสมสนิมเหล็กและเกลือเข้าไป จะได้สีเพิ่มขึ้น คือสีม่วง ส่วนครั่งให้สีแดงเข้ม แดงอ่อน แตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง ใบสักให้สีน้ำตาล แกนไม้ขนุนให้สีเหลือง แต่ถ้าต้มไปนานๆ จะได้สีเหลืองเข้มเหมือนจีวรพระวัดป่า ต้นลิ้นฟ้าหรือเพกา จะให้สีเขียว ซึ่งทั้งหมดนี้จะใช้วิธีการย้อมร้อนด้วยการต้ม แต่มีอีกวิธีคือการย้อมเย็นจะใช้กับใบห้อม(ฮ่อม) โดยนำใบห้อมมาแช่น้ำให้มันเน่าเปื่อยแล้วเอาปูนขาวใส่ให้จับตัวแบบขี้โคลน จากนั้นต้องเอาน้ำด่าง เอาขี้เถ้าไปแช่น้ำ รอจนมันเน่าเปลี่ยนเป็นสีมะเขือสุกเหลืองๆ เขียวๆ ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ก็นำมาใช้ย้อมผ้าจะได้สีน้ำเงินเข้ม
นอกจากได้เรียนรู้และลงมือทำ ยังสามารถอุดหนุนผ้าฝ้ายสวยๆ กลับบ้านได้ด้วย เพราะที่นี่เป็นทั้งฐานการเรียนรู้และโชว์รูมเล็กๆ ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าทอสวยๆ จากชุมชนด้วยนะ
มาแวะเติมความสดชื่นกันที่สวนหม่อนศิริมัลเบอร์รี่ ที่เป็นทั้งศูนย์เรียนรู้การปลูกพืชผักออร์แกนิกและการแปรรูปผลผลิต อย่างการนำมัลเบอร์รี่พันธุ์เชียงใหม่ 60 มาแปรรูปเป็นน้ำมัลเบอร์รี่สกัดเข้มข้นให้ดื่มกันท่ามกลางบรรยากาศสวนร่มรื่น บนพื้นที่ 4 ไร่ แบ่งทำสวนเกษตรผสมผสานและ ปลูกมัลเบอร์รี่แบบทรงพุ่ม จัดเป็นทรงอุโมงค์ยาว สามารถเดินเล่นชมสวนเก็บมัลเบอร์รี่กินสดๆ จากต้นได้ หรือจะสั่งน้ำมัลเบอร์รี่สมูทตี้ มัลเบอร์รี่อิตาเลี่ยนโซดา ยำมัลเบอร์รี่ ก็อร่อยสดชื่นเชียวล่ะ หากติดใจจะอุดหนุนผลิตภัณฑ์แปรรูปที่นี่ก็มี น้ำมัลเบอร์รี่สกัดเข้มข้น แยมมัลเบอร์รี่ หม่อนจี๊ดจ๊าด ชาใบหม่อน ฯลฯ ให้ติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย
เสพงานศิลป์ที่ “เชียงใหม่–อาร์ต มิวเซียม” พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานประติมากรรมและจิตรกรรมจากปลายพู่กันของเหล่าบรรดาศิลปินอิสระ ที่ได้เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2554 นำโดย อาจารย์พรชัย ใจมา ศิลปินอิสระ ร่วมกับผองเพื่อนหัวใจศิลป์ที่มารวมตัวกันกว่า 70 คน บนเนื้อที่ 52 ไร่ ไม่เพียงเป็นแหล่งการเรียนรู้งานศิลปะ แต่หวังให้ศิลปินร่วมหุ้น เป็นบริษัทสร้างผลงาน–สร้างห้องจัดแสดงระดับโลก เป็นแหล่งแสดงและสะสมงานศิลปะทั่วโลก ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมฟรี
เมื่อแดดร่ม ก็ได้เวลานั่งสองแถวไม้โบราณชมความงามของชุมชนออนใต้ บริเวณจุดชมวิว 360 องศา เป็นทุ่งนากว้างที่มีฉากหลังเป็นขุนเขาล้อมรอบ เปรียบดั่งสันเขาเป็นกำแพงที่ล้อมรอบชุมชุนแห่งนี้เอาไว้ จุดไฮไลท์คือ “ดอยม่อนจิ๋ง” หมายถึงภูเขาที่สูงชัน มีรูปทรงคล้ายภูเขาไฟฟูจิ จนนักท่องเที่ยวต่างขนานนามว่า “ฟูจิออนใต้” ใครที่เป็นสายเดินป่าที่นี่ก็มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจให้มาสัมผัส
จากนั้นเดินทางไปตามรอยเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 บริเวณโรงบ่มใบยาแม่ผาแหน เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานช้างเผือก ที่พ่อเทียบ ปัญญาจันทร์ ผู้เคยเฝ้ารับเสด็จหลายครั้ง ได้เล่าว่าครั้งหนึ่งเคยมีช้างเผือกเกิดขึ้นที่บ้านแม่ผาแหน และพบว่าตรงตามตำราคชลักษณ์คู่บารมีของพระเจ้าแผ่นดิน จึงจัดพิธีน้อมถวายช้างเผือกเป็นเชือกที่สองของรัชกาล ณ สถานที่แห่งนี้
เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เราก็เข้าบ้านพักซึ่งลุงเทียบเป็นประธานกลุ่มโฮมสเตย์ คอยจัดสรรบ้านให้นักท่องเที่ยว ซึ่งลุงๆ ป้าๆ ได้จัดแบ่งห้องพักในบ้านพร้อมดูแลเราเหมือนเป็นลูกหลานที่กลับมาเยี่ยมเยือน
ไฮไลท์สุดท้ายของค่ำคืนที่ออนใต้ คือการไปโต้ลม ห่มหนาว นอนนับดาว ที่อ่างเก็บน้ำห้วยลาน ซึ่งช่วงที่เราไปตรงกับวันที่มีปรากฎการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ และทางชุมชนออนใต้ร่วมกับ Naris สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ จัดกิจกรรม NARIT Public Night ดูดาวผ่านกล้องโทรทรรศน์ขึ้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยลาน ทำให้ผู้คนหลั่งไหลจากทั่วทุกสารทิศ มาจับจองพื้นที่บริเวณริมอ่างเก็บน้ำ บ้างพกเสื่อ บ้างขนที่นอนปิกนิก เก้าอี้สนาม รวมทั้งเต้นท์และอุปกรณ์แคมปิ้ง มาปักหลักนอนนับดาวกันตลอดทั้งคืน
เรียกได้ว่ามาออนใต้วันเดียวเที่ยวไม่หมดจริงๆยังมีความสุขความสนุกให้คุณค้นหาอีกมากมายในชุมชนที่ถูกขนานนามว่า “บ้านจุ้ม เมืองเย็น” แห่งนี้
ต. ออนใต้ อ. สันกำแพง จ. เชียงใหม่
โทร. 084-914-7111 (ภิญโญ วิสัย)
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ขนมด๊อตเป็นขนมปิ้งโบราณของจังหวัดบุรีรัมย์ รสชาติหวานมันและกลมกล่อมชนิดที่ผู้ซึ่งไม่ชื่นชอบขนมหวานยังต้องฟิน แต่ในปัจจุบันกลับหาซื้อทานได้ยากยิ่ง เนื่องจากเป็นขนมที่ต้องใช้ความอดทนในการผลิตเป็นอย่างสูง
ความบังเอิญเป็นสิ่งที่ล้ำค่าของการเดินทาง และสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าจุดหมาย ก็มักจะเป็นเรื่องบังเอิญระหว่างทาง และบางครั้งเรื่องราวระหว่างทางก็อาจจะเปลี่ยนจุดหมายของคุณไปตลอดกาล
จุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้ คือการมาเที่ยวชมธรรมชาติของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จ. ลพบุรี และแน่นอนว่าความประทับใจของเรา คือเรื่องราวระหว่างทางของทริป ซับลังกา ทริปนี้นั่นเอง
วันนี้ นายรอบรู้ นักเดินทาง จะพาคุณไปรู้จักกับอีกหนึ่งชุมชนที่น่าสนใจใน จ.อุดรธานี ที่นำดอกบัว มาย้อมผ้าไหมให้มีสีที่แปลกใหม่และสวยงามจากธรรมล้วนไม่ผสมเคมี ที่นั้นคือ กลุ่มทอผ้าโบราณบ้านโนนกอก
สัมผัสวิถีชีวิตชนกลุ่มน้อยชาวม้ง ที่หมู่บ้านม้งหนานฮวา หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักหรือปรากฏข้อมูลท่องเที่ยวในโลกโซเชียล ด้วยชาวม้งที่นี่ยังคงวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิมท่ามกลางธรรมชาติที่แสนเรียบง่าย
© 2018 All rights Reserved.