หากพูดถึงเรื่องสุขภาพ แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากมีสุขภาพที่ดีกันทั้งนั้น แต่หลายคนก็เลือกกินแต่อาหารที่ตนชอบจนลืมนึกถึงผลที่จะตามมา ไม่ว่าเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น การหันมากินอาหารที่มีประโยชน์ให้มากขึ้นสักหน่อยน่าจะเป็นทางออกที่ดี
“สลัด” เมนูรวมสารพัดผัก เป็นหนึ่งในอาหารที่มีคุณประโยชน์ แถมหากินได้ง่าย มีขายมากมายหลายร้าน และวันนี้เราก็จะพาไปยังร้านที่ทำให้คุณอยากกินสลัดทุกมื้อ กินอย่างอร่อยโดนใจแบบไม่มีวันเบื่ออีกด้วย
นั่นก็คือร้าน Jones’ Salad ร้านโปรดของคนรักสุขภาพ ความพิเศษโดนๆ คือมีน้ำสลัดให้เลือกถึง 14 รสชาติ ใครมาร้านนี้จึงมักชวนกันชิมสูตรนั้นลองสูตรนี้ แล้วก็จะพบรสชาติที่ถูกปากถูกใจหลายๆ สูตรให้ได้กินเวียนไปหลายๆ มื้อ
น้ำสลัดรสชาติที่ตอบโจทย์คนไทยมากที่สุดเห็นจะเป็น “แซ่บซีฟู้ด” เป็นสูตรที่คิดขึ้นมาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ เริ่มต้นจากลุงโจนส์ซึ่งเป็นคนชอบปาร์ตี้ชอบกินเลี้ยงกับครอบครัว แต่จะเน้นกินอาหารรสอร่อยกัน จนต่อมาเริ่มรู้สึกว่าต้องห่วงสุขภาพตนเองและคนรอบข้างมากขึ้น ลุงเลยนำเมนูสลัดเข้าสู่โต๊ะอาหาร
แต่สลัดไม่ใช่เมนูที่จะถูกปากใครง่ายๆ ลุงโจนส์จึงเริ่มคิดสูตรทำน้ำสลัดให้มีรสอร่อยจะได้ดึงดูดให้คนอยากกินเมนูผักนี้ ผลจากการลองผิดลองถูก ในที่สุดก็ได้น้ำสลัดที่ทุกคนติดใจ จนกลายเป็นเมนูฮิตของครอบครัว หลังจากนั้นก็มีน้ำสลัดสูตรใหม่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
อาริยะ คำภิโล หรือคุณกล้อง ชื่นชอบสูตรน้ำสลัดของลุงโจนส์ ขณะเดียวกันก็เล็งเห็นถึงความสำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้งเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบันที่อยากกินอาหารดีๆ แต่สภาพแวดล้อมไม่อำนวย แถมเวลาก็มีน้อยนิด คุณกล้องจึงตั้งร้าน Jones’ Salad ขึ้น เป็นทางเลือกซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มนี้ได้
แล้วร้านนี้ก็ไม่ได้มีดีแค่สลัด เขายังมีเมนูอร่อยๆ อีกหลายเมนู ทั้งสเต๊กหมูคุโรบูตะ สเต๊กอกไก่ สเต๊กปลาบาซา สเต๊กแซลมอน สปาเกตตีหลากเครื่องปรุง และเมนูเรียกน้ำย่อย
ทุกเมนูใส่ใจในทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบ อย่างผักอินทรีย์ปลอดสารพิษส่งตรงจากฟาร์มใน จ. เชียงราย เนื้อไก่เกรดพรีเมียมจากไก่เลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติ เลี้ยงด้วยข้าวกล้อง โดยปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะ และเนื้อปลาแซลมอนสดใหม่นำเข้าจากนอร์เวย์
ลูกค้ามั่นใจได้ว่าวัตถุดิบทุกอย่างในจานเป็นของสดใหม่ มีคุณภาพ ทั้งผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด และสนนราคาแต่ละเมนูนั้นคุ้มค่าจริงๆ
เมนูแนะนำมีข้าวหน้าแซลมอนไวกิ้ง สลัดกรีกซีซาร์ที่ใช้เนื้ออกไก่ไขมันต่ำแต่โปรตีนสูง และสเต๊กอกไก่แคริบเบียนซึ่งหมักไก่ด้วยเครื่องเทศนานาชนิดและใช้ความร้อนต่ำในการปรุงสุกเพื่อรักษาคุณค่าอาหาร
ส่วนเครื่องดื่มก็มีหลายเมนูเช่นกัน ใครชอบเครื่องดื่มรสเปรี้ยวซ่า ขอแนะนำน้ำสตรอว์เบอร์รีดอยคำและน้ำลาเวนเดอร์ รับรองสดชื่นตั้งแต่จิบแรก คนชอบดื่มชาก็มีชาเขียวมะลิรสหวานหอมให้เลือก หอมกลิ่นมะลิขึ้นจมูก หรืออยากเน้นสุขภาพก็ต้องสั่งคลอโรฟิลล์เลม่อนที่ผสานด้วยรสเปรี้ยวอ่อนๆ จากมะนาว และน้ำผลไม้รวมที่รสชาติเปรี้ยวอมหวานกำลังดี
นอกจากเมนูอาหาร ร้านโจนส์สลัดยังครีเอตมาสคอต “ลุงโจนส์” เป็นสื่อนำเสนอคอนเทนต์เรื่องสุขภาพและการดูแลตัวเองด้วย มีทั้งแบบการ์ตูนอ่านง่ายๆ และแบบวิดีโอดูเพลินๆ รวมถึงมี Facebook Fanpage ให้อัปเดตข้อมูลได้อย่างสม่ำเสมอ พาให้ใส่ใจเรื่องสุขภาพไปด้วยในตัว
“สลัดสดใหม่ รสชาติไม่ซ้ำเดิม พร้อมประโยชน์แน่นๆ เต็มๆ คำ มีให้ชิมทุกวันที่ร้านโจนส์สลัด” นักชิมสายสุขภาพต้องห้ามพลาด!
เปิดจันทร์–พฤหัสบดี 10.00-21.00 น. ศุกร์–อาทิตย์ 10.00-22.00 น.
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
เมื่อพูดถึงห่านพะโล้ ชื่อร้านอุไรห่านพะโล้คงเป็นลิสอันดับต้น ๆ ที่ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึง ด้วยเป็นร้านเก่าแก่ที่ยืนหยัดขายเฉพาะห่านพะโล้มากว่า 60 ปี บนย่านการค้าอย่างถนนทรงวาด
หากพูดถึงการท่องเที่ยวในภาคกลาง เราจินตนาการถึงอะไรกันบ้าง เมื่อไม่นานมานี้ “นายรอบรู้” มีโอกาสได้ร่วมทริป “สายน้ำ ~ นนทบุรี สุนทรีแห่งภาคกลาง” สองวันหนึ่งคืน ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคกลาง กับ The Abstract Move ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้น
เราอยากแนะนำ 5 ที่เที่ยวจังหวัดนราธิวาส ที่มาแล้วจะต้องประทับใจ และหลงใหลในดินแดนปลายด้ามขวานแห่งนี้เหมือนกับเรา
ใครจะรู้ว่าโคลนที่เอามามาร์กหน้า พอกตัวยังสามารถทำให้ผ้าเกิดความนุ่มลื่นขึ้น จากความช่างสังเกตของ คุณดวงพร อารีพันธุ์ หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านภูมิปัญญาผ้าหมักโคลน ที่ได้ค้นพบวิธีการหมักผ้าไทยด้วยโคลนจากแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เนื้อผ้ามีสัมผัสนุ่มลื่นจนเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน จากอุทกภัยน้ำท่วมเมื่อปี 2538 ที่ ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ทำให้ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เกิดความเสียหาย หลังจากน้ำลด ดวงพร ได้ทำความสะอาดบ้านจึงไปพบกับห่อผ้าของคุณแม่ที่ถูกโคลนทับเป็นเวลา 2-3 เดือน หลังจากนำมาซักกลับพบว่าผ้ามันนุ่มลื่น จนเกิดไอเดียเป็น “ผ้าหมักโคลนเจ้าพระยา” เช่นทุกวันนี้ แรกเริ่มเดิมทีคุณดวงพรใช้ผ้าลายไทยที่เป็นอัตลักษณ์ของภาคกลางไปหมักโคลนให้นุ่ม