พระนอนสอนอะไร

ใครเที่ยววัดบ่อยๆ คงสังเกตเห็นว่าพระประธานในอุโบสถวิหารที่เราเข้าไปกราบขอพรกันนั้น นอกจากจะเป็นพระพุทธรูปนั่งในปางต่างๆ แล้ว ก็ยังมีพระนอนอยู่ด้วย

คติการสร้างพระพุทธรูปปางไสยาสน์หรือปางปรินิพพานนั้น เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้รำลึกถึงการเสด็จปรินิพพานขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะเดียวกันก็เพื่อเป็นอนุสติเตือนใจให้ดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท สังขารทั้งหลายเป็นสิ่งไม่เที่ยง แม้กระทั่งพระพุทธองค์ก็ยังเลี่ยงไม่พ้น

การสร้างพระนอนส่วนใหญ่มักอยู่ในท่าตะแคงขวา ในท่านอนของราชสีห์ (สีหไสยา เป็นท่านอนที่ให้กำหนดจิตให้ตื่นในเวลาที่ต้องการ) หลับพระเนตร พระเศียรหันไปทางทิศเหนือ หนุนพระเขนย พระหัตถ์ขวารองพระเศียรไว้ พระหัตถ์ซ้ายทอดไปตามพระวรกายเบื้องซ้าย พระบาทซ้ายทับพระบาทขวาลักษณะตั้งซ้อนกัน พระนอนรูปแบบนี้ในกรุงเทพฯ มีองค์โตๆ อยู่ที่วัดโพธิ์ ท่าเตียน

นอกจากท่าตะแคงขวาซึ่งพบเห็นกันเป็นส่วนใหญ่แล้ว ยังมีพระนอนในท่าตะแคงซ้าย เช่นที่ภูค่าว จ. กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพระนอนแบบทวารวดี พระหัตถ์ซ้ายพับขึ้นมารองเศียรแทนที่จะตั้งขึ้นแบบพระนอนในยุคหลังๆ พระบาทซ้อนเกยกัน และอีกรูปแบบหนึ่งที่ถูกจัดให้เป็น Unseen ก็คือ พระนอนหงาย ที่ จ. สุพรรณบุรี สันนิษฐานกันว่าการนอนลักษณะนี้ ไม่น่าจะหมายความถึงการเสด็จดับขันธ์ของพระพุทธเจ้า

Writer/ Photographer

Webmaster

Webmaster

Relate Place

Eat

ลายแทง 10 ร้านเด็ด Seafood

ใครวางแผนไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้บ้าง? อากาศร้อนๆแบบนี้ ถ้าได้กินอาหารทะเลแบบฟินๆ ก็คงจะดีไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ
วันนี้ “นายรอยรู้” ได้รวบรวม 10 ร้าน Seafood สุดฟิน! อร่อยแน่นอนแบบไม่ต้องลุ้น มาให้คุณได้ลองลิ้มรสในช่วงนี้ จะมีร้านไหนกันบ้างนั้น ไปดูกันเล้ยยยยย!!

News

ฟิล์มกระจก: เรื่องราวเหนือกาลเวลา

“การจินตนาการชีวิตความเป็นอยู่ในอดีตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นิทรรศการชุดใหม่นี้จะพาผู้คนทั่วโลกไปสำรวจวิถีชีวิตประจำวันของชาวสยามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำลำคลองมากมายหลายสายในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงกลางศตวรรษที่ 20”

Eat

กินดีๆ กินอย่างไร หากินได้ที่ไหน?

การหาอาหารดีๆ ปลอดภัย ไร้สารพิษตกค้างนับวันยิ่งหายากขึ้นไปทุกที แล้วคนกินอย่างเราจะทำอย่างไรเพื่อจะมั่นใจได้ว่า อาหารที่เรากินนั้นจะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ในอนาคต

Eat

ร้านป้านาง ส้มตำยโสเก่าแก่กลางกรุง

“มื้อนี้กินหยังดีน้อ” เสียงหวานๆ ของป้านาง อุ่นเรือน สว่างวงษ์ แม่ค้าส้มตำวัย 62 ปี ที่ทักทายลูกค้าทุกคนด้วยความเป็นกันเอง โดยใช้ภาษาอีสานบ้านเกิดและความคุ้นเคยที่ขายส้มตำในย่านนี้กว่า 40 ปี ถือว่าเป็นแม่ค้าส้มตำอีสานที่มีความเก่าแก่ร้านหนึ่งในกรุงเทพฯ สลับกับการตระเตรีมอาหารเพื่อเสิร์ฟลูกค้าคนอื่นๆ อย่างชำนิชำนาญ