
บ้านขนมปังขิง คาเฟ่เรือนไม้สไตล์ฝรั่ง
ใครที่แวะเวียนมาแถวย่านเสาชิงช้า แล้วกำลังมองหาจุดเช็คอินบรรยากาศสบายๆ สไตล์คาเฟ่ “นายรอบรู้” ขอแนะนำ “บ้านขนมปังขิง” คาเฟ่เรือนไม้สไตล์ฝรั่ง ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเป็นตะวันตกและตะวันออก
ไปไหม ไปเที่ยวใต้กัน… เพราะตอนนี้กระแสท่องเที่ยวภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดปลายด้ามขวานอย่างยะลา กลายเป็นหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนอย่างไม่ขาดสาย ในโซเชี่ยลเต็มไปด้วยภาพความงดงามของป่าดิบชื้นแดนใต้ ทะเลหมอก อาหารหน้าทาน แล้วใครล่ะจะอดใจไหว
นายรอบรู้นักเดินทางจึงถือโอกาศเดินทางลงใต้ไปถึงจ. ยะลา ไม่เท่านั้น เราขับรถมุ่งหน้าไปเหนือเขื่อนบางลาง สัมผัสดินแดนพหุวัฒนธรรม สูดกลิ่นธรรมชาติ และดื่มด่ำประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์มาลายากัน
หมู่บ้านจุฬาภรณพัฒนา 9 เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของทริปฮาลาบาลา ที่นี่คือที่พักโรงครัวร้านสะดวกซื้อมุมสงบของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว
ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่กลางหุบเขาทำให้หมู่บ้านที่มีทิวทัศน์สวยงามไม่ว่าจะหันไปมุมไหนคุณก็จะเห็นต้นไม้ใหญ่สายหมอกดอกไม้และที่สำคัญคือรอยยิ้มและอัธยาศัยของคนที่นี่งดงามยิ่งกว่าธรรมชาติเสียอีกนะคุณ
ที่นี่ทำให้เราได้พบกับ “หลิงปิง” หรือ ชนะ แซ่อู๋ หนุ่มวัยรุ่นที่เป็นทั้งคนนำเที่ยว เป็นเพื่อนเดินทาง และเป็นคนสร้างสีสันให้กับทริปฮาลาบาลา ใครๆ ที่มา ก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน หลิงปิงพาเราเริ่มต้นทริปด้วยการเดินชมหมู่บ้านชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่ห้อมล้อมหมู่บ้านที่เขาเติบโตมาแต่เด็กด้วยความเป็นกันเองจึงทำให้นักท่องเที่ยวหลายๆคนสนุกสนานครื้นเครงไปกับมุขตลกของหนุ่มผิวแทนที่พูดภาษาจีนคล่องจนคุณต้องตกใจ
อีกหนึ่งจุดห้ามพลาดในหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 ก็คือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวของการก่อตั้งหมู่บ้าน รวบรวมประวัติศาสตร์และเครื่องมือเครื่องใช้ของพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา โดยการบอกเล่าจากสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาลายาตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ
ใครชอบเดินป่า ขึ้นเขา ชมวิวทะเลหมอก เราแนะนำให้มา “ผาหินโยก” แต่ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่าเส้นทางเดินนั้นค่อนข้างชัน แต่สำหรับคนชอบธรรมชาติแล้วเราก็แนะนำให้ขึ้นไปชมสักครั้ง
เส้นทางเดินขึ้นไปบนผาหินโยกเป็นทางเดินในสวนยางพาราที่ขึ้นรวมกับต้นไม้อื่นๆจนนักท่องเที่ยวอย่างเราๆแยกแยะได้ยากว่านี่คือเขตสวนยางหรือคือป่ากันแน่เพราะต้นไม่ขึ้นรกทึบบนพื้นมีใบไม้แห้งทับถมหนาตาพื้นค่อนข้างลื่นและชื้นบางช่วงจะเห็นมอสและเฟิร์นขึ้นเขียวครึ้มจากความชื้นแฉะของพื้นด้านล่าง
ทะเลหมอกบนผาหินโยกนั้นยากจะคาดเดาบางครั้งหมอกมาประปรายทำให้เห็นบางส่วนของอ่างเก็บน้ำบางลางเห็นหมู่บ้านถนนและทิวทัศน์ของผืนป่า แต่บางช่วงที่อากาศไม่เป็นใจเราอาจถูกเมฆหมอกปกคลุมขาวโพลนจนระยะการมองเห็นไม่เกิน 10 เมตร จากตัวเราก็มี
สิ่งหนึ่งที่สะดุดตาเรามากเมื่อเดินขึ้นมาก็คือต้นเสม็ดแดง ให้คุณลองนึกภาพป่าเขียวครึ้มที่แสงแทบจะส่องลงมาไม่ถึงพื้น แต่มีลำต้นของต้นไม้ชนิดหนึ่งที่สีน้ำตาลอมแดงตัดกับสีเขียวเข้มของใบไม้ มันน่าสะดุดตาว่าไหมล่ะคุณ และที่สำคัญ ที่ผาหินโยกมีเสม็ดแดงขึ้นทั่วทั้งพื้นที่ แบบที่มองไปทางไหนก็จะมีต้นแดงๆ ขึ้นแซมอยู่ทั่วทั้งป่า
น้ำตกกลางผืนป่าดงดิบ มีความสูงราว 100 เมตร การเดินทางสามารถเข้าไปด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ แล้วเดินต่อไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ใช้เวลาเดินเท้าราวๆ 10 นาที
ระหว่างทางเดินคุณจะได้พบกับธรรมชาติอันอลังการ ตั้งแต่ต้นไม้ต้นเล็กต้นน้อยริมทาง ไปจนถึงพี่ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านออกไปปกคลุมผืนป่า บางช่วงแสงอาทิตย์แทบส่งลงมาไม่ถึงพื้นล่าง ทำให้ผืนดินเปียกชื้น มอส เฟิร์น และไลเคนต่างรื่นเริง เจริญเติบโตอย่างไม่เกรงใจใคร
จากป่าทึบออกมาก็เผยให้เห็นน้ำตกสูงตระหง่านเสียงน้ำที่ตกกระทบหินซู่ซ่าจนบางครั้งต้องตะโกนคุยกันและบางครั้งก็เลือกที่จะเงียบเสียงและฟังเสียงธรรมชาติแทนที่จะใช้พลังพูดแข่งกับธรรมชาติจนเหนื่อย แน่นอนว่าเมื่อเปิดตาดู เปิดหูฟังเสียงธรรมชาติ ในตัวเรากลับชื่นฉ่ำใจอย่างบอกไม่ถูก
ยิ่งช่วงเวลาที่ถกขากางเกงแล้วเอาเท้าแช่ช้ำเย็นๆมันเป็นช่วงที่ดี…ดีจนไม่อยากจะไปไหนอีกแล้ว
มาถึงบางลาง ถ้าไม่ได้ล่องเรือเที่ยวก็เหมือนมาไม่ถึง เพราะเรือกลายเป็นวิถีชีวิตของคนกลางหุบเขาแห่งนี้มาไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วอายุคนแล้ว เด็กๆ ตัวน้อยที่ดูเล่นสนุกไปวันๆ นั้นขับเรือเก่งไม่แพ้คนริมแม่น้ำ หรือชายเลเลยล่ะ เพราะฉะนั้นการนั่งเรือในอ่างเก็บน้ำจึงเป็นกิจกรรมห้ามพลาด
ช่วงเวลาที่เหมาะจะลงเรือคือช่วงเช้าตรู่หรือบ่ายแก่ๆเพราะอากาศไม่ร้อนแล้วยังมีโอกาสจะได้เห็นชีวิตสัตว์ป่าให้พื้นที่ป่าฮาลาบาลาแห่งนี้อีกด้วย ใครชอบดูนก ระหว่างทางที่เรือแล่นไปจะมีเหยี่ยวนาๆ ชนิด นกเงือกหลายสายพันธุ์ และนกอีกมากมายบินร่อน เล่นน้ำ หาปลา และใช้อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นบ้านอย่างชื่นใจ
ธรรมชาติสองข้างทางนั้นสวยงามตระการตาต้นไม้ใหญ่กลางป่ากับสายหมอกขาวที่ค่อยๆใหลผ่านหุบเขาบางช่วงไอหมอกลอยขึ้นปะทะกับแสงแดดส่องทะลุลงมาโดนใบไม้เกิดเป็นช่องแสงสวยงามเกินจะอธิบายเป็นคำพูดได้
สำหรับคนที่ยังลังเลว่ายะลายังไกล…เกินจะไปถึง เราบอกคุณตรงนี้เลยว่า ลองหาเวลาว่างๆ ออกไปสัมผัสยะลาดูสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่ายะลามีดี และระยะทางไกลนั้นไม่ใช่ปัญหา ถ้าใจไปถึง เพราะใครๆ ที่ได้ไปยะลา ต่างก็พูดว่าจะกลับมาเยือนยะลาอีกแน่ๆ
ขอขอบคุณ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.)
ที่ตั้ง ต. แม่หวาด อ. ธารโต จ. ยะลา
โทร 097 117 556
Facebook ชุมชนท่องเที่ยวจุฬาภรณ์พัฒนา๙ จ.ยะลา
สนใจท่องเที่ยว แนะนำให้ติดต่อล่วงหน้าก่อน
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ใครที่แวะเวียนมาแถวย่านเสาชิงช้า แล้วกำลังมองหาจุดเช็คอินบรรยากาศสบายๆ สไตล์คาเฟ่ “นายรอบรู้” ขอแนะนำ “บ้านขนมปังขิง” คาเฟ่เรือนไม้สไตล์ฝรั่ง ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความเป็นตะวันตกและตะวันออก
บ่ายวันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2565) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าวเปิด “ปีท่องเที่ยวไทย 2565” และ “Visit Thailand Year 2022 : Amazing New Chapters” เพื่อส่งสัญญาณให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ โดยยกโมเดล “DASH” เพื่อฟื้นการท่องเที่ยวไทยและช่วยฟื้นเศรษฐกิจในภาพรวม ณ ห้องฉัตรา บอลลูม 3 โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพมหานคร
AS.IS Coffee Stand คาเฟ่ขนาดกะทัดรัดสไตล์ Industrial Loft ในย่านเยาวราช ที่คุณฮิว ธีรจิต ล้วนพิชญ์พงศ์ ผู้หลงใหลในรสของกาแฟตั้งใจสร้างขึ้น โดยรีโนเวทตึกเก่าของที่บ้านให้เป็นคาเฟ่เท่ห์ๆ ตามสภาพเดิมๆ ที่เป็น
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า “เรามักจะเห็นคุณค่าของบางสิ่งในวันที่เราสูญเสียสิ่งนั้นไป” แต่จะเป็นอย่างไร หากสิ่งนั้นคือศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
อากาศเริ่มเย็นลงอย่างนี้ จะดีแค่ไหนถ้าคุณได้หอบหิ้วร่างกายที่เหนื่อยล้าอ่อนแรงออกไปพักผ่อน หาที่พักดีๆ สักที่ มีกิจกรรมไว้ทำกับคนรู้ใจ และไม่ไกลจากเมืองกรุง ในวันนี้ “นายรอบรู้ นักเดินทาง” เราขอเสนอ รถบ้านสวนละไม Natural Camp สัมผัสใหม่แห่งการนอนเกิดขึ้นที่นี่
ททท.สำนักงานแพร่ ขอเชิญร่วมงาน ประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่แห่ตุงหลวง ประจำปี 2562 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว และผู้สนใจเที่ยวงาน “ประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮ เมืองแพร่แห่ตุงหลวง ประจำปี 2562” ในระหว่างวันที่ 14-20 มีนาคม 2562 ณ วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ นางสิรินาถ ฉัตรศุภกุล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ กล่าวว่า
ร้านรถเข็นริมทางที่อยากบอกต่อ แรกเริ่มเดิมทีรุ่นพ่อมีอาชีพขายรังนกมานานกว่า 60 ปี
จะมีร้านกาแฟสักกี่ร้านที่ได้บรรยากาศเช่นนี้ ตั้งอยู่ใต้ถุนบ้านมีทุ่งนาอยู่ด้านหน้า รอบๆบ้านก็เป็นสวนครัวที่เก็บทำอาหารเสิร์ฟลูกค้า
© 2018 All rights Reserved.