
ไก่ย่าง VS พิซซ่า 2ร้านเด็ด เมืองขอนแก่น
ในช่วงที่ผ่านมา “นายรอบรู้” แวะไปเที่ยวเมืองขอนแก่นมาแล้ว เลยเก็บร้านอาหารเด็ดๆ คนละสไตล์มาฝาก ทั้งอาหารอีสานรสเด็ดแซ่บอีหลีและสไตล์อิตาเลียน รับรองว่าอร่อยเวอร์ทั้งคู่
แต่ละร้านตั้งขายสินค้าดึงดูดใจกันสุดๆ ทั้ง เช่น ร้านขายหอยจ๊อ ติ่มซำ ก็แสดงให้เห็นถึงการทำให้เห็นจะจะ พวกร้านขายอาหารทะเล ก็นำปู กุ้ง ปลา กุ้งมังกร กุ้งแม่น้ำ มาวางเรียงบนก้อนน้ำแข็งในกระบะสแตนเลสเพื่อคงความสด และแน่นอน เพราะแต่ละอย่างเป็นของขึ้นโต๊ะทั้งนั้น ราคาสินค้าจึงไม่ถูกตามคุณภาพ
เมื่อเดินลึกเข้าไปสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าจำหน่ายสิ่งของนานาชนิด จะหยุดแวะที่ร้าน บะหมี่เกี๊ยวฮ่องกง หรือ ฮั่วเซ่งฮง ที่อยู่ติดกันก่อนก็ได้ หาของอร่อยรองท้องก่อนเดินไปลุยต่อ
เดินไปอีกสักหน่อยจะพบกับศาลเจ้าเก่าแก่อายุนับร้อยปี คือศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ย เป็นศาลเจ้าของชาวจีนแต้จิ๋วที่สร้างมาก่อนตัด ถ. เยาวราช ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย แวะเข้าไปสักการะขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันได้ หรือจะเข้าไปใช้ห้องน้ำก็มีบริการ
ด้านหน้าศาลจะมีร้านขายน้ำอัลมอนด์จีน หรือที่เรียกว่า เห่งยิ้ง ซึ่งคล้ายๆ นมกลิ่นเหมือนรัมเรซิ่น มีสรรพคุณช่วยให้ชุ่มคอ เป็นของหากินยากที่น่าลอง ร้านเดียวกันยังขายน้ำผลไม้หลากหลายชนิดมาก เราลองกินแล้วอร่อยหลายอย่าง แนะนำน้ำตะลิงปลิง ที่เปรี้ยวหวานหอมกำลังดีจนติดใจ
จากศาลเจ้าเลงบ้วยเอี๊ยลึกเข้าไปมีร้านขายของแห้ง จำพวกเครื่องดื่มกระป๋อง ซอสปรุงรส เห็ดเป๋าฮื้อ จับเกี้ยม-อาหารที่ดองไว้กินกับข้ามต้ม แป๊ะก๊วยต้ม หน่อไม้จีนต้ม ปลิงทะเล ฯลฯ เลยไปอีกจะมีร้านขายอาหารทะเล เช่น ก้ามปู ปูม้าตัวใหญ่ ปูทะเล กุ้งมังกร ร้านขายปลาจีนที่ทำกันสดๆ
เดินมาอีกนิดจะเจอร้านขายหอยจ๊อ จำหน่ายทั้งติ่มซำ หอยจ๊อ แฮ่กึ๊น ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา เกี๊ยวปลา และน้ำจิ้มสุกี้ยากี้ ลูกชิ้นร้านนี้ใช้วัตถุดิบอย่างดีมาทำ เช่น ลูกชิ้นปลาใช้ปลาอินทรีย์ ลูกชิ้นกุ้งใช้กุ้งเป็นตัวๆ ไม่ใส่สารบอแรกซ์ แต่ที่ขึ้นชื่อสุดของร้านคือหอยจ๊อสูตรกวางตุ้ง ที่ใช้เนื้อปูทะเลล้วนๆ ไม่ใส่ปูม้าผสม เคียงด้วยเนื้อหมู มันหมูแข็ง ผสมกับเครื่องปรุงซีอิ๊ว และพริกไทยป่น จนหอม
ในซอยยังมีร้าน พริกไทย ง่วนสูน ตรามือ เป็นร้านเก่าแก่ ขายพริกไทยจนมีชื่อเสียง ปัจจุบันขายเครื่องเทศอื่นๆ ด้วย ที่หน้าร้านมีเครื่องจักรนำพริกไทยมาบดกันใหม่ๆ
ถ้าจะซื้ออาหารสำเร็จ เช่น หมูย่าง เป็ดย่าง หัวหมู เจ้าอร่อยที่ลูกค้านิยมคือร้าน ก๊ำหลง มีป้ายชื่อร้านติดเด่นเห็นชัด หน้าร้านจะแขวนโชว์ทั้งเป็ดย่างหนังเกรียมเหลืองตึง กับหมูย่าง ที่เรียกน้ำลายคนซื้อได้ เป็ดที่ใช้เป็นเป็ดเชอรีตัวใหญ่เนื้อนุ่ม หนังไม่ติดมัน
นอกจากนี้ยังมีร้านขายเส้นหมี่ต่างๆ ได้แก่บะหมี่หยก บะหมี่เหลือง โกยซีหมี่ แทรกด้วยร้านขาบขนมไหว้เจ้า ทั้งขนมเทียน กุ่ยช่าย ซาลาเปา ซิ่วท้อ ถ้วยฟู ขนมเปี๊ยะ ขนมโก๋ ก็มีวางขายที่นี่ รวมไปถึงร้านขายชา ที่มีชาสารพัดตั้งแต่ชาอูหลง ชามะลิ ไปจนถึงชาดอกไม้ ชากุหลาบ ชามะลิ
จากปากตรอกอิสรานุภาพฝั่งถนนเยาวราช เดินตรงมาอีกหน่อย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแปลงนาม จะเจอร้านขายสินค้าที่น่าสนใจอีกหลายร้าน เช่น ร้านขายรังนก-หูฉลาม ร้านขายหน้ากากงิ้ว หน้ากากแป๊ะยิ้ม ร้านขายถ้วยจานชามและถาด แต่ละร้านล้วนเป็นร้านเก่าแก่อายุ 50 ปีขึ้นไปทั้งสิ้น และไม่ควรพลาดร้านขนมบริเวณท้ายซอย ซึ่งมีขนมสารพัดชนิดสำหรับทุกเทศกาลของจีน สำหรับวันตรุษนี้ต้องใช้ขนมมงคลคือขนมจันอับ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเต็มงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ นครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยผนึกกำลังพันธมิตรอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยกทัพ Soft Power ของไทยเสนอแก่นักท่องเที่ยวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิด เพื่อมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจ
สู่การตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมตอกย้ำแบรนด์ Amazing Thailand ควบคู่กับแนวคิด Responsible Tourism ฉายภาพมิติใหม่ของท่องเที่ยวไทยที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ Amazing Experience อันเปี่ยมด้วยคุณค่า และความหมายในทุกช่วงเวลา
นางสาวปาริชาติ บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า การจัดงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ “ปีท่องเที่ยวไทย 2566”
ตามแคมเปญ “Visit Thailand Year 2023, Amazing New Chapters” โดย ททท. มุ่งมั่น กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกมายังประเทศไทย เพื่อค้นพบมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เชิงประสบการณ์ (Experience-based-Tourism) ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ เติมพลัง เติมความหมายบทใหม่ของชีวิต ผ่านสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว รวมถึง Soft Power of Thailand และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยภายใต้แบรนด์ Amazing Thailand ให้แข็งแกร่งและยั่งยืน
สำหรับหมุดหมายสุดท้ายของงาน “Amazing Thailand Fest 2023” ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 ณ the Southern Forecourt, Overseas Passenger Terminal, Circular Quay West ใจกลางนครซิดนีย์ เครือรัฐออสเตรเลีย โดยได้รับความร่วมมือจากทีมประเทศไทย ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ธุรกิจนำเที่ยว และหน่วยงานพันธมิตร ผนึกกำลังออกแบบประสบการณ์ Amazing Experience ของประเทศไทยผ่านพลังแห่ง Soft Power มานำเสนอให้ชาวออสเตรเลียสัมผัสอย่างใกล้ชิด
พิธีเปิดงาน “Amazing Thailand Fest 2023 in Sydney” ในวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เครือรัฐออสเตรีเลีย นางสาวสุกัญญา สิริกาญจนากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ ททท. นางสาวปาริชาต บุญคล้าย ผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ททท. ร่วมเปิดงาน ภายในงาน ททท. เนรมิตบรรยากาศแห่งความรื่นเริงภายใต้ธีมงานเทศกาลประเพณีไทย F-Festival ประดับด้วยธงราว ตุง โคม และกระทงหลากสี พร้อมจัดพื้นที่จำลองบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม โดดเด่น เช่น หาดทรายและชายทะเลไทย ก่อนจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวผ่าน
Soft Power ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค อาทิ รำไทย
สี่ภาค โขน โนรา เซิ้งอีสาน รำกลองยาว และการแสดงสุดพิเศษศิลปะการต่อสู้แม่ไม้มวยไทย F-Fight มรดกทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานยังได้มีส่วนร่วมลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโซนสาธิต ภายใต้แนวคิด Responsible Tourism นำเสนอกิจกรรมทำกระเป๋าสานจากขยะอวนทะเล จาก จ.กระบี่ และกิจกรรมการแปรรูปขยะพลาสติกเป็นของที่ระลึกจาก จ. ภูเก็ต รวมทั้งกิจกรรมสาธิตทางวัฒนธรรม ได้แก่ การวาดร่ม การเพ้นท์หน้ากากผีตาโขน และ F-Fashion เชิญชวนผู้เข้าร่วมงานแบ่งปันและโพสต์ประชาสัมพันธ์งาน Amazing Thailand Fest 2023 บนโซเชียลมีเดีย เพื่อรับของที่ระลึกกางเกงช้างแฟชั่นยอดฮิตของไทย
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การนำเสนอวัฒนธรรมอาหาร F-Food กับ 8 บูธร้านอาหารไทยในซิดนีย์
จัดจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต้นตำรับไทย ประกอบด้วย ร้านชาติไทย (หมูพวง ส้มตำ ปากหม้อ ลาบไก่ ไส้กรอก
ไก่ย่างไม้) ร้าน Dodee Paidang Haymarket (ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้ง ปาท่องโก๋ เกี๊ยวทอด กล้วยทอด ไก่ทอด) ร้าน Thai Riffic Express (ผัดไทย โรตี ทาโก้ สะเต๊ะ) ร้าน Show Neua (ข้าวเหนียวหมูทอดน้ำพริก ข้าวซอย น้ำเงี้ยว ขนมจีน
แกงปู) ร้านพริกไทย (ผัดผักรวมเม็ดมะม่วง มัสมั่นเนื้อ ขาหมู แกงเขียวหวาน ผัดกะเพรา ผัดซีอิ๊ว) ร้าน Tawandang @ George St (ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว) ร้าน Sabuy Express (ทุเรียน ขนุน ส้มโอ สับปะรด) ร้าน Top Class (มะพร้าว)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีบูธผู้ประกอบการพันธมิตรด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมสาธิตเพ้นท์หน้ากากรูปสัตว์, สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (Thai Trade) ณ นครซิดนีย์
จัดกิจกรรมชิมผลไม้ไทย, สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ณ กรุงแคนเบอร์รา จัดกิจกรรมชิมเนื้อเป็ดปรุงสุกซึ่งมีการนำเข้าเพื่อจำหน่ายในออสเตรเลียเป็นครั้งแรก, สายการบินไทย, ไทยแอร์เอเชีย และต่อยอดแนวคิด Responsible Tourism เสนอเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ 20 เส้นทาง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการตลาด “BOOK NOW, GET 80 AUS NOW” จัดโปรโมชั่นจองที่พักที่ส่งเสริมความยั่งยืนในประเทศไทยภายในงาน ผ่านเว็บไซต์ agoda รับส่วนลด 80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราคา 2,000 บาท) ทั้งนี้ การจัดงานยังคง DNA ของ ททท. ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการลดปริมาณการใช้พลาสติก เลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ย่อยสลายได้ มีการวางระบบการคัดแยกขยะ และตระหนักถึงการใช้วัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
นอกจากนี้ ททท. ได้จัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest Media Briefing” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ณ Watersedge at Campbell’s Stores, the Rocks นครซิดนีย์ โดยเชิญพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในพื้นที่ จำนวน 40 ราย ร่วมอัปเดตสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย รวมถึงสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทย และต่อยอดจัดกิจกรรม “Amazing Thailand Fest to Fam Trip Australia to Thailand” นำคณะสื่อมวลชน influencers bloggers จากเครือรัฐออสเตรเลีย เดินทางสัมผัสประสบการณ์ Amazing Experience ทดสอบสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย ใน 3 จุดหมายปลายทางหลัก ได้แก่ มาสัมผัส กรุงเทพฯ เชียงราย และกาญจนบุรี- สมุทรสงคราม ระหว่างวันที่ 20 – 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเป็นตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพที่มีนัยยะสำคัญต่ออัตราการเติบโตของตลาดระยะใกล้ จากสถิติปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียแล้วกว่า 336,688 คน ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทย
385,100 คน เทียบเท่าร้อยละ 85 ของสถิติในปี 2562 และจุดหมายปลายทางยอดนิยม 5 อันดับ ได้แก่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) พัทยา (ชลบุรี) และกระบี่ ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Millennials
/ Gen Y Digital nomad Family และ Health-conscious รวมทั้ง เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่ตระหนักถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์พลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปีท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ ททท. วางเป้าหมายกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวออสเตรเลียเข้าเที่ยวไทย 522,000 ภายในสิ้นปีนี้
Guide ใกล้ เหมือนมีไกด์ไว้ใกล้ตัว
Application นี้จะช่วยแนะนำว่า ตำแหน่งรอบตัวเรามีที่เที่ยว ร้านอาหาร ร้านขายของ ที่พัก หรือสถานที่จุดใดน่าแวะไปสัมผัส ชิม ช็อป แชะ แชร์ พร้อมกิจกรรมเด่นประจำเดือน แผนที่ลงจุดใช้งานง่าย ดูสนุกและสะดวก แค่ดูภาพสวยๆ ก็อยากไปแล้ว
ในช่วงที่ผ่านมา “นายรอบรู้” แวะไปเที่ยวเมืองขอนแก่นมาแล้ว เลยเก็บร้านอาหารเด็ดๆ คนละสไตล์มาฝาก ทั้งอาหารอีสานรสเด็ดแซ่บอีหลีและสไตล์อิตาเลียน รับรองว่าอร่อยเวอร์ทั้งคู่
ทศกาลแขวนโคมหลากสีสวยงาม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัย และถวายเพื่อเคารพสักการะพระนางเจ้าจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งเมืองลำพูน ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติมาเที่ยวชมความงดงาม พร้อมทั้งเขียนข้อความอธิษฐานขอพรลงบนโคม ก่อนจะนำไปแขวนไว้ตามจุดต่างๆ นับเป็นภาพสะท้อนความศรัทธาของชุมชนในเมืองบุญแห่งล้านนาของนครหริภุญชัย
ใครที่มองหาแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติผสมผสานวิถีชีวิตชุมชน ไม่ไกลกรุง ไปเช้าเย็นกลับได้แบบ one day trip แล้วละก็ “นายรอบรู้” ขอชวนเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถี “บ้านศาลาดิน” ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐมกัน
ร้านรถเข็นริมทางที่อยากบอกต่อ แรกเริ่มเดิมทีรุ่นพ่อมีอาชีพขายรังนกมานานกว่า 60 ปี
© 2018 All rights Reserved.