วัดท่าถนน
อยู่ใกล้กับหอนาฬิกาในตัวเมืองอุตรดิตถ์
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้จังหวัดต่างๆ ในเมืองเหนือจัดหาพระพุทธรูปมาประดิษฐานที่วัดเบญจมบพิตร จึงมีการอัญเชิญหลวงพ่อเพชรที่ประดิษฐานที่วัดนี้ไปด้วย และหลังจากประดิษฐานอยู่ที่วัดเบญจมบพิตรนาน 10 ปี ก็ได้อัญเชิญกลับมาที่วัดท่าถนนตามเดิม หลวงพ่อเพชรเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองอุตรดิตถ์ ชาวเมืองเคารพเลื่อมใสกันมาก ทั้งมีพุทธลักษณะอันงดงาม
วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง
ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งยั้ง ต. ทุ่งยั้ง อ. ลับแล
ชมพระบรมธาตุทุ่งยั้ง เจดีย์แบบลังกาทรงกลม ฐานสี่เหลี่ยมมีสาม ชั้น ฐานล่างมีเจดีย์ประจำสี่มุม ฐานชั้นที่ 3 มีซุ้มกลางทั้งสี่ด้าน ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เดิมองค์พระธาตุมียอดสูงมาก แต่ยอดหักลงเมื่อเกิดแผ่นดินไหวในปี พ.ศ. 2451 และมีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ดังเช่นปัจจุบัน
เขื่อนสิริกิติ์
ตั้งอยู่ที่ ต. ผาเลือด อ. ท่าปลา
เป็นเขื่อนดินอเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างขวางกั้นแม่น้ำน่านจนเกิดเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่เหนือเขื่อน มีความจุมากเป็นอันดับ 3 รองจากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนภูมิพล จากจุดชมทิวทัศน์บริเวณสันเขื่อนสามารถเห็นทัศนียภาพของทะเลสาบและเกาะแก่งกลางน้ำท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อน
อช. ภูสอยดาว
ที่ทำการอยู่ในเขต ต.ห้วยมุ่น อ. น้ำปาด
สิ่งน่าสนใจของอุทยานฯคือการเดินเป็นระยะทาง 6.5 กม. ตามเส้นทางที่สูงชัน เพื่อไปสัมผัสความงามของสนสามใบกลางทุ่งหญ้าเขียวขจีระหว่างทางที่เนินเสือโคร่งและเนินมรณะ สามารถชมทิวทัศน์ของผืนป่าและเทือกเขาชายแดนไทย-ลาวได้อย่างกว้างไกลเส้นทางนี้ใช้เวลาเดินราว 4-6 ชม.