
พระนอนสอนอะไร
เกร็ดความรู้นักเดินทางเกี่ยวกับ พระนอน ที่เราสามารถพบได้ตาววัดวาอารามเมื่อเวลาออกเดินทางท่องเที่ยว รู้ไหมว่าพระนอนสอนอะไรเราบ้าง
เวลาไปเที่ยวป่า เรามักจะพบ ผีเสื้อ หลายชนิดไปรวมกันอยู่ตามริมห้วยหรือแอ่งน้ำ มากกว่าจะมาเกาะตามดอกไม้ นั่นก็เพราะนอกจากการกินน้ำหวานจากดอกไม้แล้ว ผีเสื้อยังต้องการของเหลวที่มีแร่ธาตุต่างๆ ด้วย
แร่ธาตุต่างๆ นั้นจะหาได้จากทั้งซากสัตว์ ผลไม้เน่า แม้กระทั่งปัสสาวะหรือมูลสัตว์ ที่มักจะอยู่ตามพื้นดินหรือแอ่งน้ำ จนเป็นที่ชุมนุมของผีเสื้อตัวผู้ที่ต้องการแร่ธาตุเหล่านี้ในการสร้างสเปิร์มและกลิ่นหอมพิเศษเพื่อดึงดูดตัวเมีย ส่วนผีเสื้อตัวเมียนั้นกินแต่น้ำหวานดอกไม้เสมอ
ตามแอ่งน้ำหรือที่ชื้นแฉะริมถนน ซึ่งมักเป็นที่โล่งแสงส่องถึง อาจพบผีเสื้อลงไปหากินรวมกันเป็นจำนวนนับร้อยนับพันตัว เกาะกันแน่น จึงเรียกกันว่า โป่งผีเสื้อ ในฤดูแล้งจะมีโอกาสพบโป่งผีเสื้อมากกว่าช่วงอื่น เพราะแหล่งน้ำมีจำกัด ผีเสื้อจึงต้องมารวมตัวกัน นับเป็นโอกาสดีในการไปเฝ้ารอดูและสังเกตลักษณะเด่นของผีเสื้อแต่ละชนิดได้
เกร็ดความรู้นักเดินทางเกี่ยวกับ พระนอน ที่เราสามารถพบได้ตาววัดวาอารามเมื่อเวลาออกเดินทางท่องเที่ยว รู้ไหมว่าพระนอนสอนอะไรเราบ้าง
ถ้าไปทำบุญตามวัดทางเหนือช่วงสงกรานต์ จะเห็นภาพของแม่อุ๊ยประดับตุงไว้บนพระเจดีย์ทรายที่ชาวบ้านก่อขึ้นร่วมกันให้สวยงาม รู้ไหมว่าสึงเหล่านี้มีความหมาย
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีไม่เฟื่องฟู คนภูเก็ตสมัยก่อนเดินทางสัญจรทางบกด้วยวิธีลากจูงเช่นใช้ม้าลากเรียก แบ้เชี้ย ใช้คนลากเรียก หล่างเชี้ย แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน เครื่องยนต์มาแทนที่แรงงาน เป็นจุดเริ่มต้นของภูมิปัญญาที่ชาวภูเก็ตรู้จักกันดีในชื่อ รถโพถ้อง
ปกติยามเมื่อเราท่องเที่ยวไปตามดอยสูงในภาคเหนือ จะพบกลุ่มคนเหล่านี้บนดอยสูง สวมใส่กระโปรงจีบบานพร้อมเสื้อที่มีลายปักต่างๆ อย่างงดงาม แต่เราไม่เคยรู้เลยว่า ตัวกะโปรงนั้นมีงานศิลปะชนิดหนึ่งซ่อนอยู่ นั่นก็คือ “ผ้าเขียนเทียน”
© 2018 All rights Reserved.